กลิ่นตัวเป็นปัญหาที่พบได้ทั่วไปและส่งผลกระทบต่อความมั่นใจและความสบายใจของคนหลาย ๆ คน สาเหตุหลักของปัญหากลิ่นตัวมาจากกระบวนการต่าง ๆ ภายในร่างกาย ซึ่งมีหลายปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดกลิ่นตัวได้

สาเหตุของปัญหากลิ่นตัว

• เหงื่อและแบคทีเรีย เหงื่อที่ร่างกายขับออกมาจากต่อมเหงื่อมี 2 ชนิดหลัก ๆ ได้แก่ เหงื่อจากต่อมเอ็กไครน์ (eccrine glands) และเหงื่อจากต่อมอะโพคริน (apocrine glands) เหงื่อจากต่อมเอ็กไครน์ซึ่งถูกขับออกมาบริเวณผิวหนังทั่วไปเป็นน้ำเกือบทั้งหมดและไม่มีกลิ่น แต่เหงื่อจากต่อมอะโพครินซึ่งพบได้มากในบริเวณใต้วงแขน ขาหนีบ และรอบหัวนมจะมีสารอินทรีย์ปนอยู่ เมื่อเหงื่อชนิดนี้มาสัมผัสกับแบคทีเรียที่อาศัยอยู่บนผิวหนัง แบคทีเรียจะทำปฏิกิริยากับสารอินทรีย์ ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ขึ้นมา
• อาหาร อาหารที่เรารับประทานมีผลต่อกลิ่นตัว เช่น อาหารที่มีเครื่องเทศแรง เช่น กระเทียม หัวหอม พริกหรืออาหารที่มีไขมันสูงและเนื้อแดง เมื่อร่างกายย่อยอาหารเหล่านี้สารบางชนิดจะถูกขับออกมากับเหงื่อ ทำให้เกิดกลิ่นที่แรงขึ้น
• ฮอร์โมนและภาวะสุขภาพ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ในช่วงวัยรุ่น การตั้งครรภ์หรือวัยหมดประจำเดือน อาจทำให้ต่อมเหงื่อผลิตเหงื่อมากขึ้น นอกจากนี้โรคบางอย่าง เช่น เบาหวาน โรคตับ หรือภาวะเหงื่อออกมากเกินไป (hyperhidrosis) สามารถทำให้กลิ่นตัวรุนแรงขึ้นได้
• การดูแลร่างกายที่ไม่ถูกต้อง หากไม่ดูแลความสะอาดร่างกายให้ดี เช่น การไม่อาบน้ำเป็นประจำ การสวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศไม่ดีหรือไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าบ่อย ๆ จะทำให้เหงื่อและแบคทีเรียเกิดการสะสม ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของกลิ่นตัว

วิธีกำจัดกลิ่นตัว

• การรักษาความสะอาด การอาบน้ำอย่างสม่ำเสมอเป็นวิธีพื้นฐานในการกำจัดกลิ่นตัว การใช้สบู่ที่มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อแบคทีเรียสามารถช่วยลดจำนวนแบคทีเรียบนผิวหนังได้ ทำให้เหงื่อไม่เกิดปฏิกิริยากับแบคทีเรียและลดการเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ นอกจากนี้ควรซับเหงื่อให้แห้งหลังอาบน้ำและใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายหรือสารลดเหงื่อเพื่อช่วยป้องกันกลิ่นตัวได้
• การเลือกเสื้อผ้า เลือกเสื้อผ้าที่ทำจากผ้าที่ระบายอากาศได้ดี เช่น ผ้าฝ้าย เพื่อช่วยลดการสะสมของเหงื่อ นอกจากนี้ควรเปลี่ยนเสื้อผ้าบ่อยๆ โดยเฉพาะในวันที่เหงื่อออกมากหรือเมื่อออกกำลังกาย
• การปรับอาหาร ลดการบริโภคอาหารที่มีผลต่อกลิ่นตัว เช่น กระเทียม หัวหอม และอาหารที่มีไขมันสูง หรืออาหารที่มีรสจัด เน้นรับประทานอาหารที่ย่อยง่ายและมีสารอาหารที่ดี เช่น ผักและผลไม้สด ซึ่งช่วยลดกลิ่นตัวจากภายในได้
• การใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายและสารลดเหงื่อ (antiperspirants) เป็นวิธีที่นิยมในการควบคุมกลิ่นตัว โดยสารลดเหงื่อช่วยลดปริมาณเหงื่อที่ถูกขับออกจากต่อมเหงื่อ ขณะที่ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายช่วยป้องกันไม่ให้แบคทีเรียเจริญเติบโต ทำให้ลดปฏิกิริยาระหว่างเหงื่อและแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่น
• การดูแลสุขภาพทั่วไป การดื่มน้ำมาก ๆ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และการรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมสามารถช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการขับของเสียออกจากร่างกายได้ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยลดกลิ่นตัวได้