เอ็นอักเสบ (Tendonitis) คือภาวะที่เส้นเอ็นเกิดการอักเสบ เส้นเอ็นเป็นเนื้อเยื่อที่เชื่อมต่อกล้ามเนื้อเข้ากับกระดูก มีบทบาทสำคัญในการเคลื่อนไหวร่างกาย การอักเสบนี้ทำให้เกิดอาการเจ็บปวด บวม แดง และเคลื่อนไหวไม่สะดวก หากไม่ได้รับการรักษาหรือปล่อยให้อาการรุนแรงขึ้น อาจนำไปสู่ปัญหาทางสุขภาพที่เรื้อรังและการเคลื่อนไหวที่จำกัดได้
อาการของเอ็นอักเสบ
อาการของเอ็นอักเสบมักเกิดขึ้นบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ เช่น ข้อศอก ข้อเข่า ข้อเท้า หัวไหล่ และข้อมือ อาการหลักที่พบได้บ่อยคือ
- ปวด ความเจ็บปวดมักเกิดขึ้นบริเวณที่เอ็นอักเสบ โดยเฉพาะเมื่อมีการเคลื่อนไหวหรือใช้งานบริเวณนั้น
- บวมและอักเสบ พื้นที่ที่มีการอักเสบอาจบวม แดง และรู้สึกร้อนเมื่อสัมผัส
- กล้ามเนื้อแข็งและเคลื่อนไหวลำบาก บางครั้งการเคลื่อนไหวข้อต่อบริเวณที่เอ็นอักเสบจะทำได้ยากและรู้สึกติดขัด
- เจ็บเมื่อสัมผัส หากกดหรือสัมผัสบริเวณเอ็นที่อักเสบ อาจจะรู้สึกเจ็บได้
สาเหตุของเอ็นอักเสบ
เอ็นอักเสบมักเกิดจากการใช้งานเส้นเอ็นมากเกินไปหรือมีการใช้งานซ้ำ ๆ ในรูปแบบเดียวกัน ซึ่งส่งผลให้เกิดการอักเสบและการบาดเจ็บที่เอ็น สาเหตุหลัก ๆ ของเอ็นอักเสบ ได้แก่
- การใช้งานกล้ามเนื้อและข้อต่อมากเกินไป การออกกำลังกายที่หนักเกินไป หรือการทำงานที่ต้องใช้กล้ามเนื้อในท่าทางเดิมซ้ำ ๆ เช่น การเล่นกีฬา การยกของหนัก หรือการพิมพ์คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน สามารถทำให้เอ็นอักเสบได้
- อายุและความเสื่อมของเส้นเอ็น เมื่ออายุเพิ่มขึ้นเส้นเอ็นจะมีความยืดหยุ่นน้อยลงและเสื่อมสภาพ ทำให้เสี่ยงต่อการอักเสบและบาดเจ็บได้ง่าย
- การบาดเจ็บเฉียบพลัน การได้รับบาดเจ็บโดยตรง เช่น การกระแทก การล้ม หรือการบิดข้อต่ออย่างแรง อาจทำให้เส้นเอ็นบาดเจ็บและเกิดการอักเสบตามมา
- ท่าทางที่ไม่ถูกต้อง การนั่ง เดิน หรือออกกำลังกายในท่าทางที่ไม่เหมาะสมสามารถเพิ่มแรงกดดันที่เส้นเอ็นและทำให้เกิดการอักเสบได้ง่ายขึ้น
วิธีการรักษาเอ็นอักเสบ
การรักษาเอ็นอักเสบมีหลายวิธีขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ การรักษาที่สำคัญมีดังนี้
- พักการใช้งาน การให้เส้นเอ็นที่อักเสบได้พักเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อลดการอักเสบและป้องกันการบาดเจ็บซ้ำ ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เกิดการใช้เส้นเอ็นมากเกินไป
- การประคบเย็น การประคบเย็นช่วยลดการอักเสบและบวม โดยควรประคบเย็นในบริเวณที่เจ็บประมาณ 15-20 นาทีทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง
- การใช้ยาลดการอักเสบ ยากลุ่ม NSAIDs เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) หรือแอสไพริน (Aspirin) สามารถช่วยลดอาการปวดและอักเสบได้ แต่อย่างไรก็ตามควรใช้ยาภายใต้คำแนะนำของแพทย์
- กายภาพบำบัด การทำกายภาพบำบัดช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ โดยนักกายภาพบำบัดจะให้คำแนะนำในการออกกำลังกายที่เหมาะสมเพื่อฟื้นฟูเส้นเอ็นให้กลับมาใช้งานได้อย่างเต็มที่
- การฉีดยาสเตียรอยด์ ในกรณีที่อาการรุนแรง แพทย์อาจแนะนำให้ฉีดยาสเตียรอยด์เพื่อลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวด
การป้องกันเอ็นอักเสบ
- หลีกเลี่ยงการใช้งานข้อต่อหรือเส้นเอ็นในท่าทางที่ไม่ถูกต้อง
- ออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น
- ยืดเส้นยืดสายก่อนและหลังการออกกำลังกายเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ
- เลือกอุปกรณ์หรือเครื่องมือที่เหมาะสมเพื่อช่วยลดแรงกดดันที่เส้นเอ็น