Home |
การมีผิวที่เนียนนุ่มและดูอ่อนเยาว์เป็นสิ่งที่หลายคนปรารถนา แต่บางครั้งพฤติกรรมในชีวิตประจำวันอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพผิวโดยที่เราไม่รู้ตัวได้ ถึงแม้ว่าอายุเป็นปัจจัยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่การดูแลผิวอย่างถูกวิธีและหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เป็นอันตรายสามารถช่วยให้ผิวคงความอ่อนเยาว์ได้ยาวนานขึ้น มาดูกันว่า 5 พฤติกรรมต่อไปนี้เป็นสาเหตุทำให้ผิวแก่ก่อนวัยได้อย่างไร
แสงแดดเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น รังสี UV ในแสงแดดสามารถทำลายคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวหนัง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผิวยืดหยุ่นและดูอ่อนเยาว์ การไม่ทาครีมกันแดดหรือไม่ป้องกันผิวจากแสงแดดเป็นประจำจะทำให้ผิวหนังเกิดริ้วรอย จุดด่างดำ และผิวหมองคล้ำเร็วกว่าที่ควร จนทำให้ผิวดูหมองคล้ำและเสียความเต่งตึงก่อนวัยอันควร
การสูบบุหรี่ไม่เพียงแค่ทำลายสุขภาพปอด แต่ยังส่งผลร้ายต่อผิวหนังอีกด้วย บุหรี่ทำให้หลอดเลือดที่ผิวหนังหดตัว ส่งผลให้เลือดและออกซิเจนที่ไปเลี้ยงผิวลดลง ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นและเกิดริ้วรอยง่ายขึ้น นอกจากนี้สารพิษในบุหรี่ยังมีส่วนในการทำลายคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวหนัง ทำให้ผิวเหี่ยวและหย่อนคล้อยเร็วขึ้น
การนอนหลับเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายซ่อมแซมเซลล์ผิวและผลิตคอลลาเจนใหม่ หากนอนหลับไม่เพียงพอหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ ผิวจะไม่สามารถฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่ ทำให้เกิดรอยคล้ำใต้ตา ผิวหมองคล้ำ และริ้วรอยเล็ก ๆ ตามมา นอกจากนี้ ฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูผิวจะถูกหลั่งในช่วงที่เราหลับสนิท หากนอนไม่พอ ผิวก็จะไม่ได้รับประโยชน์นี้อย่างเต็มที่
การดื่มน้ำไม่เพียงพอทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ เมื่อผิวขาดน้ำจะทำให้ผิวแห้งและเกิดริ้วรอยได้ง่าย ผิวที่ขาดน้ำยังดูหมองคล้ำและไม่มีความยืดหยุ่น นอกจากนี้การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์มากเกินไปก็สามารถทำให้ผิวสูญเสียน้ำได้
การไม่ทำความสะอาดผิวอย่างถูกต้องหรือไม่ใส่ใจในการดูแลผิวสามารถทำให้ผิวเสียหายได้ในระยะยาว การไม่ล้างหน้าก่อนนอนทำให้สิ่งสกปรกตกค้างบนผิว ทำให้รูขุมขนอุดตัน และเกิดปัญหาผิวต่างๆ เช่น สิวและผิวหมองคล้ำ นอกจากนี้ การไม่บำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์และเซรั่มบำรุงยังทำให้ผิวขาดการดูแลที่จำเป็น