การรับประทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะจะช่วยให้เรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงเพื่อเลี่ยงการเกิดโรคการบริหารการกินให้มีการกินอย่างสมดุล เพื่อการสร้างแหล่งพลังงานของร่างกายที่ดีและอาหารยังมีบทบาทในเรื่องของการเยียวยา ในเชิงความรู้สึกหรือใช้ในการเขาสังคม
ทำไมต้องเลือกกินอาหารเพื่อสุขภาพ?
- การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ แต่ละหมู่ควรเลือกกินให้หลากหลายเนื่องจากร่างกายต้องการสารอาหารที่ครบถ้วน
- หลีกเลี่ยงการรับประทานที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค เช่น การรับประทานอาหารรสหวานจัดที่เพิ่มพลังงานทำให้เกิดโรคอ้วน รสเค็มจัดเสี่ยงต่อภาวะความดันโลหิตสูง และจำพวกไขมันเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
- การรับประทานอาหารที่สะอาด ปราศจากการปนเปื้อน เช่น อาหารที่สะอาดและปรุงสุกใหม่ ย่อมทำให้ปลอดภัยจากโรคที่เกิดจากระบบทางเดินอาหาร
- เพิ่มภูมิคุ้มกันโรค เพราะอาจลดความเสี่ยงในโรคที่จะเกิดร่วมขึ้นหรือป้องกันโรคแทรกซ้อนที่จะตามมาเพื่อทำให้สุขภาพดีขึ้น
หลักในการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ
- การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ แต่ละหมู่ควรเลือกให้หลากหลายและหมั่นดูแลน้ำหนักตัวอย่างสม่ำเสมอ
- การรับประทานข้าวให้เป็นอาหารหลัก ข้าวควรรับประทานเป็นข้าวกล้องหรือข้าวซ้อมมือ
- การรับประทานพืชผักผลไม้เป็นประจำ เพราะพืชผักผลไม้มีทั้งสีเขียวและสีเหลือง
- การรับประทานปลาและเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน ไข่ และถั่วเหลืองเป็นประจำ ดื่มนมให้พอเหมาะตามวัย
- การรับประทานอาหารที่มีไขมันแต่พอควร
- การหลีกเลี่ยงการรับประทาน อาหารที่มีรสหวานจัด และเค็มจัด
- การหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารถนอม เช่น อาหารหมักดอง อาหารกระป๋อง
- งดหรือลดเครื่องดื่ม ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเช่น เครื่องดื่ม แอลกอฮอล์
ประโยชน์ของการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ
การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ สามารถรับประทานได้ในคนปกติ รวมทั้งผู้ที่มีอาการป่วย เพราะอาจช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคหรือป้องกันโรคแทรกซ้อนที่จะตามมาและยังช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง การรับประทานเช่นนี้ได้ประโยชน์กว่าผู้ที่ไม่ได้รับประทานตามหลัก มีงานวิจัยถึงคุณประโยชน์อย่างชัดเจน และเลี่ยงต่อการเกิดโรคได้ดังนี้
- เพิ่มภูมิคุ้มกันโรค เพิ่มศักยภาพให้ระบบต่อต้านอนุมูลอิสระ(Antioxidant)
- ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจเเละหลอดเลือด
- ลดความเสี่ยงต่อโรคลมปัจจุบัน
- ลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง
- ลดความเสี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
- พัฒนาการรักษาโรคที่เกิดจากความเสื่อมเรื้อรังอย่างมีประสิทธิภาพ
- ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคข้อต่ออักเสบ ความเสื่อมเฉพาะจุด เเละโรคต้อกระจก
- ลดความเสี่ยงต่อการเป็นอัลไซเมอร์ พากินสัน โรคหืดหอบ โรคปอด และโรคที่เกิดจากความเสื่อมชนิดเรื้อรังอื่นๆ